รหัสสินค้า | SKU-00051 |
หมวดหมู่ | หนังสือวรรณกรรมแปล |
ราคา | 440.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
ลงสินค้า | 1 ก.ค. 2563 |
อัพเดทล่าสุด | 5 พ.ย. 2564 |
คงเหลือ | ไม่จำกัด |
จำนวน | ชิ้น |
มนุษย์เกิดมาเสรี และถูกพันธนาการอยู่ทั่วทุกแห่งหน
ผู้ที่คิดว่าตัวเองเป็นนายของคนอื่นๆ
จริงๆ แล้วเป็นทาสมากกว่าพวกทาสเหล่านั้น
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ข้าพเจ้าไม่รู้
มันถูกทำให้ถูกต้องตามกฎหมายได้อย่างไร?
ข้าพเจ้าเชื่อว่าข้าพเจ้าสามารถตอบคำถามนี้ได้
THE SOCIAL CONTRACT
Or PRINCIPLES OF POLITICAL RIGHT
สัญญาประชาคม
หรือ
หลักการเกี่ยวกับสิทธิทางการเมือง
เขียนโดย : ฌอง-ฌาคส์ รุสโซ
พลเมืองของเจนีวา
แปลโดย : สมบูรณ์ ศุภศิลป์
พิมพ์ครั้งแรก 2020
= = = = = = = = = = =
อิทธิพลของ “สัญญาประชาคม”
ประพันธ์เรื่อง “สัญญาประชาคม” นี้ พอพิมพ์เผยแพร่ออกมาก็ได้รับความสนใจจากวงการต่างๆ อย่างกว้างขวางพวกนักการเมืองต่างก็สนใจในหลักวิธีจัดตั้งสังคมตามแนวทรรศนะของรุสโซ อยากจะศึกษษหลักความคิดของเขาให้รู้แจ้งเห็นจริงว่ามีอยู่ประการใด
ตั้งแต่ ค.ศ. 1788 นั่นแล้ว มาร์ตซึ่งต่อมาเป็นนักปฏิวัติคนสำคัญคนหนึ่งในสมัยปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศสได้อ่านหนังสือเล่านี้เข้าไปนั่งอ่านดังๆตามร้านกาแฟ บางครั้งก็นำไปอ่านตามสาธารณสถานต่างๆ อ่านไปวิจารณ์ยกย่องไป ในการแถลงคารมในศาลพวกทนายความก็นิยมอ้างข้อความบางตอนใน “สัญญาประชาคม” ได้กลายเป็นหนังสือคู่มือของนักเรียนนักศึกษา ทางฝ่ายชนชั้นกลางก็เรียกร้องทวงสิทธิ์ผิดสามัญ ในการเรียกร้องดังกล่าวชนชั้นกลางก็อ้าง “สัญญาประชาคม” อีกเหมือนกันในสมัยปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศสซึ่งปะทุขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1789 (คือภายหลังรุสโซสิ้นชีพสิบเอ็ดปี) พวกนักปฏิวัติต่างก็อ้างอิง “สัญญาประชาคม” ระหว่างที่อภิปรายอยู่ในสภา จะเป็นสภาปฏิวัติหรือสภาร่างรัฐธรรมนูญก็ตาม “สัญญาประชาคม” กลายเป็นคัมภีร์ของนักปฏิวัติก็ว่าได้ เป็นเสมือนทุนกองกลางซึ่งใครๆก็ไปตักตวงเอาได้เสมอ ปฏิญญาสิทธิของมนุษย์และพลเมืองซึ่งตราขึ้นในสมัยปฏิวัติใหญ่ และยังคงใช้ต่อมาจนทุกวันนี้ก็ตราขึ้นโดยอิทธิพลของ “สัญญาประชาคม” ข้อความบางตอนในปฏิญญาณนั้นละม้ายคล้ายคลึงกับในสัญญาอันลือชื่อ เช่นตอนที่ว่า “มนุษย์เป็นเสรีและเสมอกันในสิทธิ หลักเรื่องอำนาจอธิปไตยอยู่ที่ประชาชาติ กฎหมายคือเครืองแสดงออกของเจตจำนงทั่วไป” หลักเกณฑ์หลายประการของระบอบสาธารณรัฐ เช่น อำนาจอธิปไตยของปรัชาชน เสรีภาพ ความเมอภาค ฯลฯ ก็เป็นหนี้รุสโซเป็นส่วนใหญ่ ทำให้บุคคลสำคัญๆในประเทศใกล้เคียงกับฝรั่งเศสต่างเคลิบเคลิ้มไปตามๆกัน โยฮัน โวลฟ์กัง เกอเธ่ นักประพันธ์เอกเยอรมันสมัยปลายศตวรรษที่ 18 กับต้นศตวรรษที่ 19 ถึงกับกล่าวว่า “โลกใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว พร้อมกับรุสโซ”
ชาร์ลส์ แบร์นาร์ด เรอนูวิเอร์ นักปรัชญาผู้มีชื่อเสียงแห่งฝรั่งเศสซึ่งวายชยม์เมื่อต้นศตวรรษนี้ได้กล่าวถึงรุสโซว่า “ในส่วนที่เกี่ยวกับอัจริยวุฒิของรุสโซ ใครบ้างจะรู้ว่า เราท่านแต่ละคนเป็นหนี้เขาอยู่เพียงไร ในเรื่องความมีใจสูง และความรักในมนุษยธรรม ! .... ถูกแล้วข้อเขียนของรุสโซบางครั้งก็ขัดแย้งกันเอง เพราะเขาเขียนไปตามที่เขารู้สึกและตามที่ใจเขารัก แต่ถึงกระนั้นเขาก็เป็นนักปรัชญาใหญ่ยิ่งแห่งศตวรรษที่สิบแปด รุสโซได้วางรากฐานลงบนดวงใจของเรา ส่วนวอลแตร์ซึ่งงานประพันธ์ของเขาเสื่อมรัศมีลงแล้วนั้น เรายังคงระลึกถึงเขาได้แต่เพียงในแง่ที่เป็นนักเขียนผู้มีคารมคมกริบ ชอบเสียดสี ชอบประชด และชอบเหน็บแนม”
หนังสือ “สารานุกรมกรังด์ ลารูซ” ได้กล่าวถึง “สัญญาประชาคม” ไว้ว่า “ในการพิทักษ์เสรีภาพและความเสมอภาค บทประพันธ์ของรุสโซเรื่องนี้ไปไกลกว่ามงแตสกิเออ และวอลแตร์ เป็นไหนๆ เป็นบทประพันธ์ที่ดลบันดาลให้เกิดปฏิญญาสิทธิของมนุษย์ และช่วยให้สมาชิกสภาปฏิวัติในสมับปฏิวัติใหญ่มีคารมคคายผิดปรกติในระหว่างทีทอภิปรายอยู่ในสภา”
อนึ่ง เจ. พี. เมเออร์ อาจารย์มหาวิทยาลัยเรดิงก์ในอังกฤษได้เขียนไว้เมื่อ ค.ศ. 1969 ว่า “หนังสือฝรั่งเศสที่เกี่ยวกับวิชาการเมืองมีอยู่ 4 เรื่อง ที่ทำให้ทรรศนะทางการเมืองของโลกเปลี่ยนแปลงอย่างล้ำลึก หนังสือ 4 เรื่องที่กล่าวได้แก่
เรื่อง “สาธารณรัฐ” ของ ฌอง โบแดง
เรื่อง “เจตนารมณ์ขอวกฎหมาย” ของ มงเตสกิเออ
เรื่อง “สัญญาประชาคม” ของ ฌอง-ฌาคส์ รุสโซ
เรื่อง “ประชาธิปไตยในอเมริกา” ของ ต็อก เดอะวิลล์
หนังสือปกแข็ง / สันโค้ง
ความหนา 368 หน้า
ราคาปก 440. บาท
ฟรีค่าจัดส่ง